Climate Neutral องค์กรที่ช่วยทำให้การลด Carbon Footprint เป็นเรื่องง่าย

กราบสวัสดีคุณผู้อ่านผู้น่ารักทุกท่านด้วยนะครับ หลายคนน่าจะเคยสังเกตเห็นบน Package ของสินค้า Peak Design หลายๆตัวจะมีสัญลักษณ์ที่เขียนว่า “Climate Neutral Certified” แปะเอาไว้อยู่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าสินค้าตัวนี้ผ่านการรับรองว่าเป็นกลางทางคาร์บอนช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมให้กับโลกเรา โดยในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จัก ความสำคัญ และกว่าจะได้สัญลักษณ์นี้มาใช้นั้นต้องผ่านกระบวนการอะไรมาบ้าง ถ้าพร้อมแล้วไปเริ่มกันเลยครับ

Climate Neutral

Climate Neutral กำเนิดมาจากประสบการณ์ตรงของ 2 องค์กรที่เป็นผู้ก่อตั้งได้แก่ BioLite และ Peak Design ซึ่งมีความเป็นกลางทางคาร์บอนคือมีการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาเท่ากับศูนย์ (Carbon Neutral) ตั้งแต่ปี 2012 และปี 2018 พวกเขาสังเกตมาตลอดว่าทุกธุรกิจมีส่วนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศของโลก แต่ธุรกิจส่วนใหญ่ก็รู้สึกว่ามันซับซ้อนเกินไปที่จะจัดการกับมัน

ซึ่ง Jonathan Cedar CEO ของ BioLite และ Peter Dering CEO ของ Peak Design เข้ามาพูดคุยกันและมีความเชื่อว่าการวัดและการกำจัดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จะต้องทำได้ง่าย และถ้ามันเป็นเช่นนี้ได้ทุกธุรกิจก็จะสามารถทำตามได้เช่นกัน พวกเขาจึงร่วมกันเปิดตัว Climate Neutral ตั้งแต่ต้นปี 2019

Climate Neutral ช่วยให้ทั้งลูกค้าและแบรนด์ต่างๆจัดการกับสภาพอากาศของโลกที่ต้องเร่งดูแลได้ทันที กระบวนการต่างๆช่วยให้แต่ละแบรนด์ลด Carbon Footprint เป็นศูนย์ และลดการปล่อยมลพิษในอนาคตได้ง่ายๆ ขณะที่สัญลักษณ์ “Climate Neutral Certified” ที่ติดกับสินค้าของแต่ละแบรนด์ที่ได้รับการรับรอง ช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับแบรนด์ และช่วยให้ลูกค้าที่เข้ามามองเห็นได้ชัดเจนว่าแบรนด์เหล่านี้ใส่ใจโลกของเราจริงจัง

ในปี 2020 Peak Design ยังคงแสดงความรับผิดชอบการปล่อยก๊าซคาร์บอนทั้งหมดของพวกเขาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็ให้การสนับสนุนธุรกิจอื่นๆที่ทำลักษณะเดียวกันนี้ด้วย และยังมีส่วนร่วมใน Climate Neutral เพื่อจะทำการวัดและชดเชย Carbon Footprint ทั้งหมด ซึ่งจากการใช้ Brand Emissions Estimator (BEE) และกระบวนการต่างๆของ Climate Neutral คำนวณออกมา แบรนด์ Peak Design มีการชดเชยคาร์บอนในปี 2019 ทั้งหมดอยู่ที่ 34,009 tCO2e

Climate Neutral ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยสนับสนุนและส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงไปสู่ธุรกิจที่ยั่งยืนได้ โดย REI ผู้นำด้านความยั่งยืนของอุตสาหกรรมที่เข้าร่วม Climate Neutral ในปี 2020 เช่นกัน นอกจากนี้ Peak Design ยังคงมุ่งมั่นใน Science Based Targets Initiative และเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้ง Climate Action Corps ของ OIA อีกด้วย

กระบวนการของ Climate Neutral

การรับรองเพื่อที่จะได้รับ Climate Neutral Certified จะประกอบไปด้วย 3 กระบวนการด้วยกัน ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นตามมาตราฐานการตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญ มีการจัดหาทรัพยากรทั้งหมดให้กับแบรนด์ต่างๆ และให้คำแนะนำที่ต้องการตลอดเส้นทางเพื่อได้รับการรับรอง ซึ่งโดยทั่วไปใช้เวลาประมาณ 1-3 เดือนตั้งแต่ต้นจนจบ

01 Measure

ระยะเวลาการดำเนินการ : แบรนด์ขนาดเล็ก 1-2 ชั่วโมง, แบรนด์ขนาดใหญ่ 1-3 เดือน (รวมการรวบรวมข้อมูล)

ทุกอย่างเริ่มต้นจากการสร้างการประมาณการที่แน่นอนของ Carbon Footprint จากการผลิตหรือจัดส่งสินค้าและบริการของคุณ ซึ่ง Carbon Footprint สำหรับการรับรองประกอบไปด้วย การปล่อยมลพิษทางตรง (Scopes 1) การปล่อยมลพิษทางอ้อม (Scopes 2) และ การปล่อยมลพิษทางอ้อมทั้งหมดจากแหล่งอื่นๆ (Scopes 3) ตามมาตราฐาน Greenhouse Gas Protocol (GHG Protocol) ซึ่งการวัดออกมาเองอาจดูลงทุนมากและดูซับซ้อน จึงได้มีการคิดค้นโปรแกรมหนึ่งขึ้นมาเพื่อทำให้กระบวนการ Carbon Footprint ทำได้ง่ายขึ้นชื่อว่า The Brand Emissions Estimator หรือ “The BEE”

The Brand Emissions Estimator (The BEE) เป็นการสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ ซึ่ง Climate Neutral ได้นำบัญชีคาร์บอนจากที่ใช้งานไม่ได้มาจนใช้งานได้ ซึ่งช่วยลดเวลาและทักษะความรู้ที่ต้องใช้ในการเริ่มต้นกระบวนการ Carbon Footprint ได้อย่างมาก

ทุกองค์กรต้องทำการวัด Carbon Footprint เพื่อให้เหมาะสมกับ Climate Neutral Certified บางองค์กรต้องการวัดก่อนเป็นอย่างแรกเพราะตั้งใจที่จะได้รับการรับรองให้ได้ ซึ่งในจุดนี้จะเห็นว่าทุกคนควรมีสิทธิ์เข้าถึงเครื่องมือวัด Carbon Footprint ที่น่าเชื่อถือและใช้งานได้ง่าย นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ถือกำเนิด The BEE ขึ้นมา

สิ่งที่ทำให้ The BEE แตกต่างจากเครื่องมือ Carbon Footprint แบบอื่น?

  • ประหยัดเวลา : สามารถสร้างค่าประมาณที่แม่นยำในเวลาไม่กี่นาทีไม่ต้องใช้เวลาเป็นวันๆ
  • Carbon Footprint จะค่อนข้างครอบคลุม : Carbon Footprint คือผลลัพธ์ที่มาจากการประมาณค่าและการปฏิบัติงานอย่างละเอียด สิ่งนี้ทำให้มั่นใจได้เลยว่าไม่มีพลาด และช่วยให้ทำงานได้รวดเร็วเพื่อสามารถทำการระบุตำแหน่งที่ต้องการจะลดการปล่อยก๊าซได้
  • จะได้รับ Carbon Footprint ที่สมบูรณ์ : เมื่อดำเนินการเสร็จก็คือเสร็จเรียบร้อยแล้ว Carbon Footprint ที่ได้มาจะสมบูรณ์เลย ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมืออื่นๆเพิ่มเติมในการวัดจากแหล่งกำเนิดจนถึงลูกค้า
  • ใช้ข้อมูลจากที่มี : ไม่เหมือนกับเครื่องมืออื่นที่ต้องมีรายการข้อมูลที่ค่อนข้างจริงจัง สามารถปรับแต่งค่า Carbon Footprint ขององค์กรด้วยข้อมูลเชิงการเงินหรือข้อมูลเชิงกายภาพได้เลย
  • เป็นการบริการตัวเอง : สำหรับแบรนด์เล็กๆในบางที่ไม่ได้ต้องการจ้างที่ปรึกษาและต้องการจัดการ The BEE ด้วยตัวเอง จึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายให้กับองค์กรได้มาก และใช้เวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ก็จะได้รับ Carbon Footprint ที่สมบูรณ์
  • ราคาไม่แพงเอื้อมถึงได้ : ด้วยความเชื่อที่ว่าทุกองค์กรควรจะสามารถคำนวณ Carbon Footprint ของตัวเองได้ จึงทำให้ราคาไม่แพงและเอื้อมถึงได้สำหรับทุกองค์กรทุกขนาด
  • เข้าใจข้อมูลขององค์กรได้ดีขึ้น : The Bee จะช่วยทำให้เห็นภาพ Carbon Footprint ขององค์กรทั้งหมดจากแหล่งกำเนิดจนถึงลูกค้า และให้ข้อมูลเชิงลึกที่เข้าใจได้ง่ายด้วย

02 Offset

ระยะเวลาการดำเนินการ : ไม่เกิน 2 สัปดาห์ในการดำเนินงานและการจัดทำเอกสารการซื้อ

เมื่อคุณคำนวณการปล่อยมลพิษของปีที่แล้วเรียบร้อย ก็จะถึงเวลาที่คุณต้องซื้อคาร์บอนเครดิต (Carbon Credit) เพื่อทำการกำจัดมันออกจากชั้นบรรยากาศ นั่นเป็นวิธีการที่คุณจะเป็นกลางทางคาร์บอนอย่างแท้จริง ซึ่ง 1 คาร์บอนเครดิตสามารถกำจัดหรือหลีกเลี่ยงการปล่อยคาร์บอนได้ 1 ตัน โครงการที่ช่วยกำจัดคาร์บอน อย่างเช่น การปลูกป่าช่วยกำจัดคาร์บอนออกจากชั้นบรรยากาศได้ ในขณะที่พลังงานหมุนเวียนช่วยหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซจากเชื้อเพลิงฟอสซิลได้

03 Reduce

ระยะเวลาการดำเนินการ : 1 สัปดาห์ในการพัฒนาแผน และ 1-2 ปีในการนำไปใช้

ขั้นตอนสุดท้ายเป็นการให้ทุกแบรนด์พัฒนาไปใช้ Reduction Action Plan (RAP) เพื่อลดการปล่อยก๊าซในช่วง 12-24 เดือนข้างหน้า มีการพัฒนาคู่มือที่ช่วยให้กำหนดว่า ที่ไหน อย่างไร ที่สามารถลดการปล่อยก๊าซขององค์กรได้บ้าง มากกว่า 140 แบรนด์ที่เคยผ่านแผนนี้มาช่วยให้เป็นแหล่งข้อมูลที่ดีในการทำแผนลดการปล่อยก๊าซของแบรนด์ที่เพิ่งเริ่มต้น

หลังจากที่ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการแล้ว องค์กรนั้นๆก็จะถูกบรรจุอยู่ร่วมกับแบรนด์อื่นๆที่ได้รับการรับรองมา และสามารถเริ่มใช้สัญลักษณ์ Climate Neutral Certified บนสินค้าหรือบน Package ได้เลย

สั่งซื้อสินค้าจากแบรนด์ Peak Design

ที่มา :

  • Peak Design Sustainability Report 2020
  • https://www.climateneutral.org/about
  • https://ec.europa.eu/eurostat/statistics-explained/index.php/Glossary:Carbon_dioxide_equivalent
  • https://www.climateneutral.org/how-it-works
  • http://thaicarbonlabel.tgo.or.th/index.php?lang=TH&mod=YjNKbllXNXBlbUYwYVc5dVgybHo
  • https://www.climateneutral.org/page/the-bee
  • https://www.notion.so/About-the-Project-8b35f72fbeca4210a26b389ff4b43c35
  • https://www.climateneutral.org/brand/peak-design
  • https://sustonmagazine.com/2020/02/12/oia-climate-action-corps/
  • https://www.paperfirst.info/sofidels-emissions-reduction-targets-have-been-approved-by-the-science-based-targets-initiative/
  • https://compareyourfootprint.com/difference-scope-1-2-3-emissions/
  • https://reder.red/carbon-credit-27-09-2019/
There are no products